วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

นักบาสเกตบอล

 
โทนี พาร์กเกอร์
 
       โทนี พาร์กเกอร์ (อังกฤษ: Tony Parker) เกิดวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1982 เป็นนักบาสเกตบอลมืออาชีพของ NBA อยู่ทีม San Antonio Spur และทีมชาติของประเทศฝรั่งเศส เขาเป็นลูกชายของอดีตนักบาสเกตบอลมืออาชีพและเขาถูกเลือกให้มาเล่นใน San Antonio Spur ในปี 2001 เขาได้รับเลือกให้เป็น Point Guard ตั้งแต่เข้าร่วมทีม เพื่อนๆ ของเขาโหวตให้เป็นผู้เล่นที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดและเขาได้ช่วยให้ San Antonio Spur ชนะ NBA Championship ด้วยกันถึงสามครั้งในปี 2003, 2005 และ 2007 เขาได้รับเลือกให้เป็น NBA All-star ถึงสามครั้งด้วยกันและได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในนัดชิงชนะเลิศ เขาได้สมรสกับ อีวา ลองโกเรีย นักแสดงชื่อดังของ Hollywood ซึ่งอายุมากกว่า 7 ปี พวกเขาสมรสกันในโบสถ์ที่ฝรั่งเศส ที่มีชื่อว่า Saint-Germain l'Auxerrois Churchใน กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ผลงานในการแข่งขันบาสเก็ตบอล

  • เอนบีเอ แชมป์เปี่ยนชิพ 2003 2005 2007
  • ฝรั่งเศส แชมป์เปี่ยนชิพ น้องใหม่ ของปี 2001
  • เอนบีเอ ชนะเลิศ เอมวีพี 2007
  • เอนบีเอ ออลสตาร์ 2006 2007 2009
  • เหรียญทองแดงใน ยูโร แชมป์เปี่ยนชิพ 2005


File:TonyParker82.jpg

นักกีฬาปั่นจักรยาน

 
 
อาลแบร์ บูร์ลง
 
         อาลแบร์ บูร์ลง (ฝรั่งเศส: Albert Bourlon) เป็นอดีตนักขี่จักรยานถนนอาชีพชาวฝรั่งเศส เขาเกิดในซ็องแซร์ก ใน ค.ศ. 1947 บูร์ลงเป็นผู้ชนะอันดับที่ 14 ของรายการตูร์เดอฟร็องส์ โดยเกือบเป็นช่วงแรกที่เขาได้แยกทางออกไป และขี่มาแบบเดี่ยวเป็นระยะ 253 กม. (157 ไมล์) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ตูร์เดอฟร็องส์หลังช่วงสงคราม[2]
 

ไฟล์:อัลแบร์ บูลง.jpg
 
 
 

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ผัก ภาษาฝรั่งเศสlegume

 
 
 
 
คำศัพท์
ผัก ภาษาฝรั่งเศสlegume
 
 
คำอ่าน
 
 



ความหมาย
legumesเลกึมผัก
échaloteเอะชาลอตหัวหอมแดง
épinardเอพินา(ค)ผักขม
germe de sojaแจมเดอโซจาถั่วงอก
gingembreจังจอมเบลอขิง
gourdeกวด(เดอ)ฟัก,น้ำเต้า
mentheม็องท์ใบสะระแหน่
navetนาเวะผักกาด
oignonโอน(นิ)ยงหัวหอม
persilแปร์ซิลผักชีฝรั่ง
petit pimentเพอทิพีม็องพริกขี้หนู
choux chinoisชูชินัวผักกาดขาว
citronnelleซิโทรเนลตะไคร้
citrouilleซิทูย(เยอ)ฟักทอง
coriandreโคริยองเดอผักชี(ไทย)
gourde amèreกวด(เดอ)อะแมมะระ
graine de lotusแกรนด์เดอโลตุสเม็ดบัว
haricotอาริโคถั่วฝักยาว
ignameอิเนียมมันเทศ
chouชูกะหล่ำปลี
chou friséชูฟริเซ่ะคะน้า
chou-fleurชูเฟลอกะหล่ำดอก
laitueเลททวูผักกาดหอม
laurierโลริเย่ใบกระวาน
maïsไมข้าวโพด
pimentพีม็องพริก
poireauพัวโฮะต้นหอม
poisพัวถั่ว
ailไอยกระเทียม
aromatesอาโรมัทข่า,กระชาย
aubergineโอแบจีน(เนอ)มะเขือ
basilicบาสิลิคใบโหระพา
cacahuèteแคคาเว็ทถั่วลิสง
cajouแคจูวเม็ดมะม่วงหิมพานต์
cannelleแคเน็ลอบเชย
cassaveแคสซาบ(เวอะ)มันสำปะหลัง
célériเซเลอลิขึ้นช่าย
champignon de parisชอมปิยองเดอปาริเห็ดกระดุม,เห็ดปารีส
champignon noirชอมปิยองนัวเห็ดหูหนู
poivronพัววงพริกหยวก
pomme de terreพอมเดอแทมันฝรั่ง
pousse de bambouพูสเดอบอมบูหน่อไม้
radis chinoisราดิชินัวหัวไชเท้า
sojaโซจาถั่วเหลือง
taroทาโฮเผือก
tomateโทมัทมะเขือเทศ

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

Jeanne d'Arc วีรสตรี แม่มด และนักบุญ

 
 
 
Jeanne d'Arc (1412 - 1431)
Jehanne Darc
หรือ
Joan of Arc
                                                           บ้านเกิดของแจนน์ ดาร์ค ปัจจุบันเป็นพิพิทธพันธ์
 
         ในบรรดาสตรีที่เหลือชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์โลกนั้น คงจะไม่เป็นที่ปฏิเสธว่าชื่อของแจนน์ ดาร์คคงจะเป็นที่จดจำ ทั้งในฐานะนักบุญของศาสนาคริสต์ และในฐานะวีรสตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ฝรั่งเศสเคยมีมา ชีวิตของเธอผกผันราวกับละครเรื่องยาว....จากสาวชาวบ้านไปเป็นวีรสตรี จากวีรสตรีไปเป็นแม่มด และจากแม่มดไปเป็นนักบุญ จนทุกวันนี้ เรื่องราวของแจนน์ ดาร์คก็ยังมีอิทธิพลต่อเมเดียต่างๆมากมาย ซึ่งไม่จำกัดอยู่เฉพาะในฝรั่งเศสเท่านั้น
คุณ meekun ขอบคุณมากค่ะสำหรับรีเควส

           โดยบันทึกของศาลฟื้นฟูคดีของแจนน์ ดาร์ค (ที่ถูกคือ Jehanne Darc ส่วนJeanne d'Arc เป็นคำสะกดที่เปลี่ยนแปลงในยุคหลัง) เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1421 ที่หมู่บ้านดอมเรมี่ ในแคว้นลอร์เรน ประเทศฝรั่งเศส เป็นบุตรของแจ็ค ดาร์ค และอิซาเบล โรเม่
นอร์มังดี (พื้นที่ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส) ในยามนั้นถูกยึดครองโดยอังกฤษ และหลังจากที่พระเจ้าชาร์ลสที่ 6 ทรงสวรรคตไปเมื่อปี 1422 บังลังค์ฝรั่งเศสก็ว่างเปล่ามาตลอด พระเจ้าชาร์ลสที่ 6 ทรงมีเจ้าชายรัชทายาทคือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส (พระเจ้าชาร์ลสที่ 7 ในภายหลัง) ก็จริง แต่เนื่องจากการลงนามใน Treaty of Troyesเพื่อยุติสงครามร้อยปีและสงครามอกินคอร์ทระหว่างพระเจ้าชาร์ลสที่ 6 และพระเจ้าเฮนรี่ที่ 5 สิทธิ์ในบังลังค์ฝรั่งเศสจึงตกอยู่กับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 (สนธิสัญญากล่าวว่า พระเจ้าเฮนรี่ที่ 5 จะแต่งงานกับแคทเธอรีนซึ่งเป็นบุตรสาวของพระเจ้าชาร์ลสที่ 6 แล้วลูกของทั้งสองจะเป็นผู้สืบทอดบังลังค์ของทั้งสองประเทศ) ซึ่งทำให้สิทธิ์ในบังลังค์ถูกแย่งไปจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส และมีขุนนางฝรั่งเศสจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยต่อข้อตกลงนี้ 
         
        สงครามในเวลาดังกล่าวถูกพูดถึงว่าเป็นสงครามระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส แต่ในความจริง เวลานั้นยังไม่มีการก่อตั้งประเทศอย่างเป็นทางการจะอย่างไรก็ดี ราชวงศ์อังกฤษในเวลาดังกล่าวก็มีต้นกำเนิดในสายมารดามาจากฝรั่งเศสเช่นกัน จึงกล่าวได้ว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ก็มีสิทธิ์ในบังลังค์ฝรั่งเศสด้วย หากเกี่ยวกับข้อนี้ ขึ้นอยู่กับว่าประเทศดังกล่าวยึดหลักว่าสิทธิ์ที่ถูกถ่ายทอดไปจะมีผลต่อบุตรชายสายตรงเท่านั้น หรือจะยินยอมรับบุตรที่เกิดจากบุตรสาวซึ่งแต่งงานไปยังตระกูลอื่นด้วย แน่นอนว่าฝ่ายพระเจ้าชาร์ลสที่ 7 ย่อมเป็นพวกแรก
           ฤดูร้อนปี 1452 แจนน์ได้ยิน"เสียง"ของเซนต์แคทรีน เซนต์ไมเคิ่ล และเซนต์มาร์กาเร็ต บอกให้เธอไปพบกับเคาทน์โรเบิร์ต เดอ บาว์ดริคอร์ท เพื่อทำการปลดปล่อยลอร์เรนและช่วยฝรั่งเศส
เดือนพฤษภาคม 1428 แจนน์เดินทางไปพบกับเคาทน์บาว์ดริคอร์ท หากก็ถูกปฏิเสธการเข้าพบ จนกระทั่งกุมภาพันธ์ปี 1429 เคาทน์บาว์ดริคอร์ทจึงยอมพบกับเธอ เขามอบเสื้อผ้าผู้ชาย ม้าและผู้ติดตาม 6 คนให้กับแจนน์และส่งเธอไปหาเจ้าฟ้าชายชาร์ลสที่จีน่อน
       หนึ่งในเอกสารหายากที่เหลืออยู่ ลายเซ็นต์ของแจนน์
เห็นได้ว่าเธอเขียน n เป็น m เนื่องจากเธออ่านเขียนไม่ได้
        ในยามนั้น แคว้นลอร์เรนเป็นดินแดนของฝ่ายชาร์ลสที่ถูกล้อมโดยดินแดนของฝ่ายศัตรู แจนน์ที่เดินทางไปพบเจ้าฟ้าชายชาร์ลสจะต้องเดินทางกว่า 600 กิโลเมตรผ่านกลางกองทัพศัตรูเพื่อจะไปให้ถึงจีน่อน ซึ่งโดยความช่วยเหลือของผู้ส่งสารของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส แจนน์ผ่านอุปสรรคแรงนี้ได้ด้วยเวลาเพียง 11 วัน กล่าวกันว่า โดยปราศจากความช่วยเหลือของผู้ส่งสารดังกล่าวนี้แล้ว คงเป็นการยากที่แจนน์จะไปถึงจีน่อนได้
        เจ้าฟ้าชายชาร์ลสที่รอแจนน์อยู่นั้นทรงนึกสนุกเล่นเกมขึ้นมา พระองค์แต่งตัวให้ไม่สมฐานะแล้วยืนปะปนอยู่ในหมู่คนสนิท หากแจนน์ก็หาพระองค์พบแทบในทันที่ที่เธอมาถึง ทั้งสองได้คุยกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งกล่าวกันว่าแจนน์ได้บอกถึงความลับ* ซึ่งยืนยันสิทธิ์ในราชบังลังค์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลสตามที่ได้ยินมาจาก"เสียง" เจ้าฟ้าชายชาร์ลสจึงเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้ส่งเธอมาจริง คนของโบสถ์ซึ่ในครั้งแรกยังสงสัยในตัวแจนน์อยู่ หลังจากการตัดสินกว่า 3 วันที่พอยติเออร์ พวกเขาก็ยอมรับเธอในที่สุด
       แจนน์ปฏิเสธที่จะบอกคนอื่นว่าความลับดังกล่าวคืออะไรกระทั่งระหว่างการพิพากษาลงโทษในภายหลัง แม้แต่ในปัจจุบัน ความลับดังกล่าวก็ยังคงเป็นความลับอยู่
        เมษายน 1429 แจนน์มุ่งไปยังออร์ลีนส์ซึ่งถูกอังกฤษล้อมอยู่ โดยมีจีน เดอลีนส์, ราอีลและ กิลส์ เดอ เรยส์เป็นเพื่อนร่วมรบ แจนน์ต่อสู้กับกองทัพอังกฤษด้วยความห้าวหาญ ระหว่างการต่อสู้นี้ แจนน์ถูกยิงด้วยธนูที่ไหล่ซ้าย บาดแผลไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่เธอก็ถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความตระหนก กล่าวกันว่าที่เรื่องราวของแจนน์เป็นที่ประทับใจมาจนทุกวันนี้นั้น อยู่ที่เหตุผลว่าแต่เดิมเธอเป็นเพียงเด็กสาวชาวบ้านธรรมดาที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อประเทศนี่เอง แจนน์หลีกเลี่ยงที่จะฆ่าคน เธอจึงมักจะถือธงนำทัพแล้วบุกนำทหารเข้าต่อสู้พร้อมกับร้องตะโกนเพื่อปลุกขวัญกำลังใจพวกพ้อง และด้วยการที่แจนน์กระทำหน้าที่ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายด้วยตนเองนี่เองที่ทำให้ทหารสามารถต่อสู้ด้วยความกล้าหาญและปลดปล่อยออร์ลีนส์เป็นอิสระในอีก 7 เดือนให้หลัง
      รูปของแจนน์ที่เครแมน เดอ โฟแกนเบิร์ก วาดเล่นในเอกสารเมื่อปี 1429
วาดโดยจับลักษณะเด่นของแจนน์ได้ดีมาก
      แจนน์ยืนกรานว่าพิธีราชาภิเษกของเจ้าฟ้าชายชาร์ลสจะต้องจัดขึ้นที่เรมส์ เนื่องจากพระเจ้าคลอวิสที่ 1 ซึ่งเป็นต้นตระกูลของราชวงศ์ฝรั่งเศสได้รับศีลล้างบาปที่เรมส์ และกษัตริย์ของฝรั่งเศสแต่ละองค์ต่างก็ประกอบพิธีที่นี่ เพื่อที่จะประกาศสิทธิ์อันถูกต้องของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส ไม่ว่าเช่นไรก็ต้องจัดพิธีขึ้นที่เรมส์ให้ได้
      การจะไปยังเรมส์นั้น ต้องมีการปะทะกับกองทัพอังกฤษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สุดท้ายข้อเสนอของแจนน์ก็ได้รับการยอมรับ เจ้าฟ้าชายชาร์ลสมุ่งหน้าไปยังเรมส์ ระหว่างการเดินทางก็รับเอาหัวเมืองต่างๆที่เข้ามาสวามิภักษ์ไว้ในปกครอง และในวันที่ 17 กรกฎาคม 1429 ก็ทรงขึ้นครองราชเป็นพระเจ้าชาร์ลสที่ 7 กษัตริย์โดยถูกต้องของฝรั่งเศสในที่สุด
หากในพิธีราชาภิเษก มีคนของฝ่ายเบอร์กันดีซึ่งเป็นศัตรูถูกเชิญมาด้วย ขุนนางของพระเจ้าชาร์ลสที่ 7 ได้เตรียมวางแผนการปกครองใหม่ไว้แล้ว มาถึงตอนนี้ กองกำลังของแจนน์ก็ค่อยๆกลายมาเป็นก้างขวางคอสำหรับฝ่ายเคาทน์อาลังซอนซึ่งยึดหลักการทหารในการปลดปล่อยฝรั่งเศสเสียแล้ว
       แจนน์ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวในราชวัง เธอมีความเห็นว่าควรที่จะชิงปารีสกลับมาเพื่อเป็นฐานอันมั่นคงให้กับพระเจ้าชาร์ลส หากขุนนางส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและพอใจต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน ผลทำให้แจนน์ต้องออกรบโดยไม่มีการช่วยเหลือที่เป็นรูปร่างจากกลุ่มขุนนาง
     23 พฤษภาคม 1430 แจนน์ถูกจับโดยฟิลิปป์ที่ 3 ที่แคว้นเบอร์กันดีและหลังจากนั้นถูกส่งมอบตัวให้กับกองทัพอังกฤษ วันที่ 24 ธันวาคมปีเดียวกัน เธอถูกนำตัวไปคุมขังที่รูน
21 กุมภาพันธ์ 1431 การสอบสวนคนนอกรีตเริ่มขึ้นโดยมีชอง ลู เมย์ทอสเป็นประธาน หากเมย์ทอสกังขาในความเที่ยงธรรมของการสอบสวนนี้จึงแทบไม่ได้ปรากฏตัวในศาลเลย แม้แต่ในการตัดสินอย่างเป็นทางการ เขาก็ปิดปากเงียบตลอดเวลา บิชอปแชง ปิแอร์ โคชอง พร้อมกับผู้เกี่ยวข้องกับโบสถ์จำนวนกว่า 60 คนจึงเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนแทน
  •  
  •  
      30 พฤษภาคม คณะสืบสวนประกาศว่าแจนน์เป็นคนนอกรีตและขับไล่เธอจากการเป็นคริสเตียน และตัดสินให้แจนน์ถูกลงโทษด้วยการเผาทั้งเป็นโดยกองทัพอังกฤษ
อย่างเคยกล่าวไว้ในเอนทรี่ของ"กิลส์ เดอ เรยส์"แล้วว่าโทษเผาทั้งเป็นนั้นเป็นการลงโทษที่จัดว่าทารุณทั้งต่อร่างกายและจิตใจเป็นที่สุดในยามนั้น นอกจากนี้ เถ้าศพของแจนน์ยังถูกโปรยลงแม่น้ำเซนเพื่อให้ร่างของเธอไม่สามารถกลับสู่ดินเพื่อวันแห่งการพิพากษาได้ นับได้ว่าโทษที่แจนน์ได้รับนั้นเป็นโทษสาหัสอย่างที่สุดสำหรับชาวคริสต์ในสมัยนั้นทีเดียว
      หลังการตายของแจนน์ อิซาเบล โรเม่ ผู้เป็นแม่ของเธอได้ย้ายไปอยู่ที่ออร์ลีนส์หลังจากที่สามีเสียชีวิต และใช้ชีวิตบั้นปลายทั้งหมดของตนในการยืนยันความบริสุทธิ์ของแจนน์และเพื่อให้โบสถ์ยอมรับแจนน์กลับมาเป็นคริสตศาสนิกชนอีกครั้ง ศาลยอมรับให้คำตัดสินที่รูนเป็นโมฆะในปี 1456และอีกเพียง 2 ปีหลังจากนั้น อิซาเบลก็ลาจากโลกนี้ไป
      18 เมษายน 1909 พระสันตปาปาปิโอที่ 10 ประกาศให้แจนน์ ดาร์คเป็นบุญราศี และในวันที่ 16 พฤษภาคม 1920 พระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่ 15 ก็ยกเธอขึ้นเป็นนักบุญในที่สุด


วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หอไอเฟล Eiffel Tower

 
 หอไอเฟล Eiffel Tower





      The Eiffel Tower in Paris was built in 1889 for the Universal Exhibition. Standing 300 metres high, it was the tallest man-made structure of its time.
      The only practical use of the Eiffel Tower is to provide splendid views over Paris, and its real purpose was to demonstrate that France was a leader in the technical world. Here you can see some beautiful Pictures of Eiffel Tower.
     The Eiffel Tower was always massively popular with the public, but not with the artistic elite at the start. The tower could be seen from anywhere in Paris.
     The writer Guy de Maupassant detested it so much that he had lunch in the tower restaurant as often as possible because it was only in the tower itself that you did not have to look at it.
     Two million people visited the Eiffel tower in its first year and it became ever more popular as the years went by. Looking at the tower became just as important as looking from the tower. Slowly the Eiffel Tower became the pre-eminent symbol of Paris and of France. It was painted by important artists and praised by poets and novelists.



        Hitler promised to destroy it, but resistance fighters flew the tricolour from the tower while American tanks were still engaging Panzer tanks in the streets below. Today tourists still flock to the tower, and terrorists threaten to bomb it. The tower has transcended its physicality to become a great human symbol. See more information about how to Visit Eiffel Tower.
      Viewed from a distance, one is struck by the graceful shape of the Eiffel Tower.
       Moving closer, you begin to resolve the detailed structure, the massive base and the countless rivets that hold the whole thing together.
      Eiffel produced more than 14,000 square feet of drawings, detailing the 15,000 structural parts and the 2.5 million rivet holes.
      The erection of this 8,000-tonne jigsaw-puzzle by only 250 workers was a feat of genius in itself. The tower was finished in two years, two months and five days, without a single worker being involved in an accident.
      Eiffel originally estimated the cost at $ 1.5 million but built it for 5 per cent less.
      The structure of the Eiffel tower is simple. It sits on four massive buttresses each inclined inwards at an angle of 44 degrees and tied together and prevented from falling by the first horizontal platform at 180 feet above ground.
     Every tower must stand up to wind. One solution is to make the tower so massive that it always prevails against wind force. The other way is to make the surface of the tower so minimal that the wind cannot get an effective grip on it. Eiffel relied on the second method. His tower is a delicate lacework of iron on which the wind can command little grip. See more about Eiffel Tower History.
    Upon completion, the Eiffel Tower replaced the Washington Monument as the tallest structure in the world. Visitors to the tower can reach the summit but require the use of elevators beyond the second floor. In windy conditions, the tower sways between six to seven centimeters. Millions of people visit it each year. Find out more Eiffel Tower Interesting Facts.





วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

10 อันดับน้ำหอมยอดนิยม



10 อันดับน้ำหอมยอดนิยมของประเทศฝรั่งเศส

   
          1. Dior Addict 2
          น้ำหอมกลิ่นใหม่ที่บรรจงสร้างสรรค์ เพื่อสะท้อนนิยามธรรมชาติแห่งหญิง อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นคุณ โปรยเสน่ห์น้ำหอมแห่งความแรงร้ายใหม่จาก Dior Addict เผยปริศนาในธรรมชาติที่ยากหยั่งรู้ และเข้าใจในความเป็นหญิง ด้วยเสน่ห์หอมของกลิ่น Mandarin Leaf และ Silk Tree Flower ที่เป็นดั่งเสียงกระซิบแรกแห่งความสดชื่น และเผยหัวใจของ Dior addict ด้วยโทนกลิ่น Vanilla ของราชินีแห่งรัตติกาล หรือดอก Queen of the Night ดอกไม้หายากที่พบได้เพียงในประเทศจาไมก้า และเบ่งบานเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางความเร้าร้อน ยั่วยวนของกลิ่น Orange Blossom ที่อบอวลแผ่ผ่านความรู้สึกให้ตราตรึง ตราบนานในความทรงจำอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
- Eau de Parfume 50 ml. ราคา: 2,700 บาท
- Eau de Parfume 100 ml. ราคา: 3,750 บาท


         2. Tommy Hilfiger
                สำหรับผู้ชายทันสมัย TRUE STAR MEN ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจ จากนักร้องชื่อดัง Enrique Iglesias ( เอ็นริเก้ อิเกล เซียส ) ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ชายร่วมสมัย เขาเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ เท่ห์ มีเสน่ห์ ดึงดูดทั้งผู้ชาย และผู้หญิงทั่วโลกด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง และสบายๆEnrique เป็นแรงบันดาลใจให้มีการสร้างสรรค์น้ำหอมที่มีกลิ่นหอมสดชื่น และมีชีวิตชีวา นอกจากนี้กลิ่นหอม     ต่างๆ ที่ให้ความอบอุ่นยังช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกมีอารมณ์ผ่อนคลาย น้ำหอมนี้ทำให้ผู้ชายรู้สึกนำสมัยและสบายๆ สามารถใช้ได้ทุกโอกาส TRUE STAR MEN น้ำหอมกลิ่นอ่อนๆ ของพันธุ์ไม้เครื่องเทศ (Soft-Spiced Wood) ที่ให้ความพึงพอใจชวนสัมผัส, สร้างความเย้ายวนและชวนสัมผัสตลอดเวลา ความทันสมัย และความอบอุ่นสร้างรสนิยมแบบใหม่ที่เรียบง่ายสบายๆ สัมผัสแรก Enticing Captivity Accord ด้วยกลิ่นหอมของ Citrus ผลไม้ตระกูลที่มีรสเปรี้ยว ที่มอบความสดชื่น เสริมด้วยกลิ่นของ anise (ยี่หร่า) ที่ให้ความรู้สึกเย็น ผสานด้วยกลิ่น licorice (ชะเอม) ที่ให้ความเย็นสร้างความตื่นเต้นและลุ่มลึก สัมผัสต่อมา Caressing Softness Accord กลิ่นหอมของ Orris (ดอกออริส) และ Cascarilla (คัสคาริลลา) ทำให้กลิ่นของพืชสีเขียวอันชุ่มฉ่ำกลายเป็นความสง่างาม ที่ซ่อนเร้นผสานกลิ่นหอมของ Rice (ข้าว) ให้สัมผัสที่นุ่มนวล สัมผัสท้ายสุด Seductive Addictive Accrod กลิ่นหอมที่ผสมผสานกันระหว่างหญ้าฝรั่นกับไม้เนื้ออ่อนเติมด้วยกลิ่นหอมของวนิลา ให้ความรู้สึกเย้ายวนชวนดมตลอดเวลา กลายเป็นกลิ่นหอมที่มีลักษณะเด่นไม่เหมือนใครสำหรับคุณผู้ชาย
-  TRUE STAR EAU DE TOILTTE 50 ML ราคา 1,850 บาท
- TRUE STAR EAU DE TOILTTE 100 ML ราคา 2,550 บาท
 





          3. Hypnose By Lancome
             มนต์สะกดจากหญิงสาวถ้าจะมีกลิ่นน้ำหอมที่เหมือนจะสะกดผู้คนรอบข้างให้ตะลึงในความเป็นหญิง  คงไม่มีหญิงสาวคนไหน ปฏิเสธได้  Hypnose จาก Lancome น้ำหอมเปล่งประกายเจิดจรัสในขวดสีม่วงพร้อมรูปทรงโค้งเว้าหลากเหลี่ยม  ให้กลิ่นชวนค้นหาของวานิลลาที่อบอุ่น เวติแวร์ที่ช่างเย้ายวน  กรุ่นกลิ่นไม้หอมของตะวันออก อย่างดอกเสาวรส และหญ้าแฝก ให้ความตรึงใจด้วยความเป็นผู้หญิงของคุณ
- Hypnose  Eau de Toilette 30 ml. ราคา 1800 บาท
- Hypnose  Eau de Toilette 50 ml. ราคา 2500 บาท



            4. POLO Black
          ผู้ชายโปโลแบล็คเป็นหนุ่มชาวเมืองเต็มตัว และเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด โปโลแบล็ค เป็นน้ำหอมที่จะเผยความเซ็กซี่ ความหนุ่มแน่น เท่ และฮิพของพวกเขาออกมา” บรรจุภัณฑ์ขวดน้ำหอมโปโลแบล็คเรียบโก้ และเซ็กซี่ทำจากแก้วเนื้อดีสีดำทรงเหลี่ยมดูองอาจ เช่นเดียวกับความมาดมั่น และทรงอำนาจของหนุ่มๆ ผู้ใส่น้ำหอมกลิ่นนี้ที่ทั้งเข้มแข็ง และทันสมัยได้รับแรงบันดาลใจจากแบบขวดน้ำหอมโปโล ปรับเพิ่มฝาเงิน และขยายตราสัญลักษณ์โปโลโพนีสีเงินให้ใหญ่ขึ้น กล่องน้ำหอมสะท้อนความเซ็กซี่เช่นกัน ด้วยสีดำวาวและประดับตราสัญลักษณ์โปโลโพนีสีเงินแบบใหม่ที่เด่นมีขนาดใหญ่ขึ้น ชัดเจนและร่วมสมัย
ชุดผลิตภัณฑ์
สเปรย์น้ำหอมผสานกลิ่นไอซ์แมงโก้ ซิลเวอร์อาร์มัวซ์ และพัทชูลี่ดำ ให้ความรู้สึกทันสมัย ท้าทาย ช่ำชอง
-  POLOBLACK Eau de Toilette Spray ขนาด 2.5 ออนซ์/75 มล. 2,300 บาท
-  POLOBLACK Eau de Toilette Spray ขนาด 4.2 ออนซ์ /125 มล. 3,300 บาท




            5.Armani code donna
          จากแรงบันดาลใจของฉากตรึงตในหนังฮอลลีวู๊ด เรื่องราวของการพบกันการปรายตามอง โค้งเว้าแห่งสรีระมาเป็น Armani code donna (75 ml ราคา3200 บาท) น้ำหอมเปี่ยมเสน่ห์ในขวดเพรียวลายดอกไม้ตะวันออกกลิ่นหอมลึกลับเผยกลิ่นแท้ของความเป็นผู้หญิงในมุมมองของดีไซเนอร์ ระดับโลก จิออร์จิโอ อาร์มานี่ เริ่มต้น น้ำหอมสีน้ำเงินซฟไฟร์ด้วยกลิ่นดอกส้ม กลิ่นหอมของเกสรดอกไม้ มะลิ แซมบัคจากอินเดีย สุดแสนจะเป็นผู้หญิง และสุดโก้หรู นี่คือความหอมหวานรวยริน ผสานกลิ่นวนิลาจากมาดากัสการ์ และกลิ่นน้ำผึ้ง จนไม่มีใครลืมลง





            6. J’adore eau de perfume
         จากสีเหลืองทองของ J’adore eau de perfume สู่สีขาวทองของ J’adore eau de toilette ใหม่ล่าสุดจากแนวกลิ่น Fruite Floral หรือผลไม้-ดอกไม้อันอุดมเข้มข้น สู่แนวกลิ่น Fresh Floral หรือดอกไม้หอมสดชื่นอันเพริศพราย
          
น้ำหอมใหม่ล่าสุดจากแนวกลิ่น Fruity Floral หรือผลไม้อันอุดมเข้มข้น สู่แนวกลิ่น Fresh Floral หรือดอกไม้หอมสดชื่น ยังคงทรงเสน่ห์สุดห้ามใจต้านตั้งแต่แรกพบ ด้วยช่อดอก Peony เต็มอ้อมแขนที่หอมละมุน สู่สัมผัสแห่งความเลอเลิศ ด้วยดอก Champaca ยามพร่างพรมลงสู่ผิว จับใจไปกับความสดชื่นโดยแท้ของ White Violet หอมหวานเป็นผู้หญิง กับแนวกลิ่นเจิดจรัสของ Star Magnolia ท้ายสุด ต้องยอมจำนนต่อสัมผัสอ่อนละมุนของ Amaranth Wood, Muscat และแย้มยิ้มเคลิ้มกับกลิ่นสดชื่นของ Damson ซาบซ่าน เบาหวิว แฝงนัยให้อิ่มเอม






           7. DKNY Red Delicious
          ใหม่สุดจากนิวยอร์ก ความหอมเร้าใจจากความตื่นเต้นแห่งรักในเมืองใหญ่ สำหรับหญิงสาว ความเย้ายวนจากกลิ่นแชมเปญ ผสมผสานกับกลิ่นลิ้นจี่ คละเคล้ากลิ่นราสพ์เบอร์รี่ และ แอปเปิ้ลแดงสุดต้องห้าม แปรไปสู่กลิ่นกุหลาบและไวโอเล็ตชุ่มน้ำ เร้ารุมด้วยกลิ่นวานิลลา และพัทชูลี ที่มาเติมความอบอุ่นลงท้ายที่กลิ่นอำพันกับกลิ่นผิวยั่วใจ สำหรับชายหนุ่ม เป็นความลุ่มหลงและทะเยอทะยานกับกลิ่นแบบเครื่องเทศ ผสมกลิ่นสดชื่นของมะกรูดและส้มจีน กลิ่นค็อกเทลและกลิ่นกาแฟ เหล้าที่หมักด้วยแอปเปิ้ลสุดฉ่ำ ว้อดก้าและวานิลลาทรงเสน่ห์ กลิ่นดอกดาวานาที่เข้มแข็ง จบที่กลิ่นไม้หอม มอส และพัทชูลี ที่จะทอดเวลารักให้ยาวนานข้ามคืน (50ml 2200 บาท 100ml 3150 บาท men 50ml 1850 บาท 100 ml 2600 บาท) - น้ำหอม perfume Red Delicious Women by DKNY 100ML











             8. CK one
        น้ำหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง Calvin Klein ซึ่งผสมผสานไปด้วยกลิ่นของผลไม้หลากหลายชนิด อย่าง ส้ม, องุ่น, แตงโม นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมธรรมชาติจาก ขิง มิ้นท์ ดอกไม้ นานาพรรณ ดอกดาวเรือง, sun-bleached wood, vanilla, violet and guaiac wood






  
         9. Burberry
พบกับความหอมตามแบบฉบับของสาวลอนดอน Burberry น้ำหอมจากอังกฤษ ด้วยกลิ่นหอมจากดอก Clementine Honeysuckle และ Rose บรรจุในขวดดีไซน์เก๋ด้วยผ้าทอลาย Check ของ Burberry มี 2 ขนาด
- 50 ml. ราคา 2600 บาท
- 100 ml. ราคา 3700 บาท 



         10. Lovely Sarah Jessica Parker
อ่อนหวาน แสนน่ารัก นี่คือหญิงสาวผู้เป็นแรงบันดาลใจ Lovely Sarah Jessica Parker แนะนำน้ำหอมใหม่ล่าสุด สะท้อนความคลาสสิกของแฟชั่น อมตะ ไร้กาลเวลา โดดเด่น ไม่ซ้ำแบบใคร ทันสมัยและเปี่ยมรสนิยม พราวความหอมสดชื่น จาก ส้มแมนดาริน   เบอร์กาม็อต และไม้หอม Pearwood ความหอมของพัตชูลี และเย้ายวนด้วย Sensuous Cedar
- Lovely Sarah Jessica Parker Eau de parfum spray  30  ml  1800   บาท 
- Lovely Sarah Jessica Parker Eau de parfum spray  50  ml  2500   บาท 
- Lovely Sarah Jessica Parker Eau de parfum spray  100   ml  3300   บาท 

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Macaron

                                                                       Macaron

     ขนมมาการอง (Macaron) เป็นขนมหวานที่มีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศสมีส่วนประกอบหลักของ Almond น้ำตาล และไข่ขาว มีลักษณะคล้ายคุ้กกี้ชิ้นเล็กสองอันประกบกันมีไส้ตรงกลาง มีสีสันสดใส กรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ตรงกลางด้วยกานาช (Ganache) มีหลายรสชาติ เช่น ช็อกโกแลต สตรอเบอร์ รี่ วานิลลา อัลมอนด์ หรือผลไม้ตามฤดูกาล เป็นต้น และมักนิยมทานคู่กับชา หรือ กาแฟ

    
   


      มาการอง เป็นที่รู้จักครั้งแรกในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สมัยนั้นข้าวยากหมากแพง เนื้อสัตว์ โปรตีนไม่มีให้รับประทานมากมายนัก เหล่าแม่ชีชาวอิตาเลียนที่อพยพมายังประเทศฝรั่งเศสจึงดำรงชีพอยู่ด้วยอัลมอนด์ เพราะมีคุณค่าทางอาหารไม่แพ้เนื้อสัตว์ โดยนำมาประกอบเป็นอาหารหรือขนมหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือ ขนมจากอัลมอนด์ ซึ่งต่อมากลายเป็นของหวานที่ชาวฝรั่งเศสชื่นชอบมาจนถึงปัจจุบัน
      สเน่ห์ของมาการองไม่ได้อยู่ที่สีสันสดใสเท่านั้น ว่ากันว่ามาการองที่ดีต้องเริ่มตั้งแต่รูปร่างคล้ายกับโดมแบน ๆ มองดูจากด้านบนเป็นวงกลม ผิวด้านบนของขนมเรียบมันจากความละเอียดของอัลมอนด์บด ส่วนที่สำคัญคือ “Foot” บางตำราเรียก ”Skirt” รอยหยักคล้ายลูกไม้ชายกระโปรงที่บางกรอบ ซึ่งมีวิธีการทำที่ยุ่งยากพอควร อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ กลิ่นหอมหวาน เคล็ดลับอยู่ที่หลังจากนำมาการอง 2 ชิ้นมาประกบกันแล้ว ต้องเก็บไว้ในที่เย็น 1 คืน เพื่อให้ไส้รสชาติต่าง ๆ ซึมซาบเข้าสู่ชั้นของคุกกี้ นอกจากนี้ความชื้นจากไส้ยังทำให้มากาฮองมีความนุ่มหนึบเวลาเคี้ยวอีกด้วย
      คุณลักษณะของมาการองที่ดี จะต้องมีรสชาติที่ผสานกันอย่างลงตัวระหว่างไส้กานาชและเนื้อคุกกี้ ส่วนสูงที่สมดุลของตัวคุกกี้ชิ้นบนและล่างที่มีขนาดเท่า ๆ กัน รวมทั้งไส้ที่บีบพอดีขอบให้เห็นเป็นเส้นเล็ก ๆ ตลอดทั้งชิ้น

วิธีการทำ


ส่วนผสม
1. ไข่ขาวแยกไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 2-3 วัน 35 กรัม
2. อัลมอนต์มีล (ใครจะซื้อมาบดเองก็ไม่ว่ากัน) 43 กรัม
3. น้ำตาลไอซิ่ง 63 กรัม
4. น้ำตาลล่ะเอียด 23 กรัม
5. สีนิดหน่อย 

วิธีทำ
1. เอาอัลมอนต์กับน้ำตาลไอซิ่งบดรวมกัน

2. กรองด้วยกระชอนเพื่อจะได้เนื้อเนียนสวย พักไว้

3. ตีไข่ขาวค่อยๆไล่สปีดจนสปีดสูงสุดทะยอยใส่น้ำตาลทรายลงไปตีจนตั้งยอดอ่อนแล้วใส่สีตีต่อจนเกือบแข็งจะเห็นเป็นมันเงาวาว (ถ้าตีจนแข็งเกินจะได้มาการองที่แห้งไม่อร่อย)

4. เอาส่วนของอัลมอนต์ที่พักไว้มาผสมในส่วนไข่ขาว

5. ตะล่อมให้เข้ากัน สำคัญมากๆถ้าตะล่อมมากไปส่วนผสมเหลว ใช้ไม่ได้ขาไม่งอก แถมมีฟองอากาศใหญ่แทรกตัวอีก ถ้าน้อยไปอาจจะยังมีฟองอากาศหลงเหลืออยู่เวลาอบจะมี air pockets

6. พักผิวให้แห้ง ทดสอบดูใช้นิ้วแตะขอบๆขนมและผิวด้านบนของขนม
การพักผิวทำให้โครงสร้างผิวของมาการองแข็งแรง อบแล้วไม่แตก มีขางอกสูง

7. อบที่ 150c ไฟ บนล่าง แบบมีพัดลมกระจายความร้อน (ใครที่มีเตาอบแบบไม่มีพัดลมให้เพิ่มอุณหภูมิเป็น 170c ค่ะ) อบนาน 12-14 นาทีขึ้นอยู่กับขนาดของมาการอง 


 photo 098_zps01066acd.jpg

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

Tom et Nino

                         Tom et Nino

Les 5 différences entre Tom et Nino.
Tom et Nino sont très différents :
-Tom est grand et Nino est petit.
-Tom est les yeux bleus et  Nino est les yeux  marron.
-Tom est porte un t- shirt rouge et Nino est porte un t- shirt noir.
-Tom est une baskets blanc  et Nino est une baskets vert.
 -Tom est blond et Nino est brun.